การตรวจบ้านใหม่ ตรวจบ้านมือสอง หรือแม้แต่ ตรวจคอนโดก่อนโอน มาเป็นของผู้ซื้ออย่างสมบูรณ์ มักจะมีเงื่อนไขและวิธีการต่างๆจากเจ้าของโครงการแตกต่างกันไป ผู้ซื้อจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสภาพบ้าน เพื่อเป็นพื้นฐานในการตรวจสอบ defect ต่างๆที่อาจพบเจอ โดยทั่วไปการตรวจคอนโดก่อนโอนกรรมสิทธิ์ ควรมีการตรวจสอบอย่างน้อย 2-3 ครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ การันตีในด้านคุณภาพ และความปลอดภัย ที่สำคัญอย่างยิ่งเราไม่ควรโอนคอนโดก่อนตรวจรับ อย่างเด็ดขาด
เตรียมอุปกรณ์ตรวจคอนโดให้พร้อม
- มือถือ/กล้องถ่ายรูป การเตรียมอุปกรณ์สำหรับตรวจคอนโดก่อนโอน จำเป็นต้องมีมือถือ /กล้องถ่ายรูป เพื่อใช้ถ่ายรูปจุดบกพร่องต่างๆเพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับทำรายงานการตรวจคอนโดก่อนโอน นอกจากนี้ยังสามารถนำรูปภาพที่ได้ไปใช้อ้างอิงและติดตามผลการแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆของคอนโด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สมุดจดบันทึก/โพสต์–อิท การเตรียมอุปกรณ์สำหรับตรวจคอนโดก่อนโอน จะต้องมีสมุดจดบันทึก/ โพสต์–อิท เพื่อจดบันทึกจุดต่างๆเมื่อตรวจพบข้อบกพร่องของคอนโดในระหว่างตรวจสอบ เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการทำรายงานการตรวจคอนโดก่อนโอนกรรมสิทธิ์ เพื่อใช้ติดตามกระบวนการแก้ไข ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ไฟฉาย/สายชาร์จ ไฟฉาย/สายชาร์จ เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมีในระหว่างขั้นตอนการตรวจคอนโดก่อนโอนกรรมสิทธิ์ เพราะไฟฉายเป็นอุปกรณ์ให้แสงสว่างช่วยในการตรวจสอบในพื้นที่อับแสง ไคขวงวัดไฟสำหรับตรวจกระแสไฟฟ้า รวมไปถึงสายชาร์จมือถือจะช่วยชาร์จแบตเตอรี่ให้โทรศัพท์ระหว่างตรวจคอนโดก่อนโอน ได้อีกด้วย
- ตลับเมตรและอุปกรณ์วัดขนาด ตรวจคอนโดก่อนโอนจำเป็นต้องมีตลับเมตรและอุปกรณ์วัดขนาด เพื่อใช้สำหรับตรวจวัดขนาดในพื้นที่ต่างๆ ให้ทราบถึงขนาดพื้นที่ใช้งานจริง เช่น ห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ระเบียง และพื้นที่ส่วนอื่นๆ เป็นต้น ลูกแก้วหรือเหรียญ สำหรับเช็กระดับความลาดเอียงของพื้นห้อง
15 List ในการตรวจรับคอนโดก่อนโอน
15 รายการ ตรวจคอนโดก่อนโอน ที่คุณควรตรวจสอบให้รอบคอบ เพื่อให้คุณได้ห้องคอนโดที่มีคุณภาพ ไม่ว่าคุณจะซื้อคอนโดใหม่มือหนึ่ง หรือซื้อห้องคอนโดมือสอง ต้องห้ามพลาดจุดเสี่ยงเหล่านี้
- พื้นห้อง: ตรวจสอบความเรียบ ไม่บวม โก่ง หรือหลุดลอก และทดสอบเสียงโดยใช้เหรียญเคาะ หากได้ยินเสียงกลวงผิดปกติแสดงว่าพื้นปูนใต้กระเบื้องไม่เต็ม
- ผนัง: ตรวจสอบรอยแตกร้าว คราบ สีที่หลุดร่อน และความเรียบเนียน หากเป็นวอลเปเปอร์ ให้เช็กว่าไม่มีรอยขาดหรือรอยย่น
- เพดาน: ตรวจสอบรอยแตกร้าว คราบน้ำรั่วซึม และความเรียบเสมอของฝ้าเพดาน
- ประตู-หน้าต่าง: ตรวจสอบการเปิด-ปิดที่ราบรื่น ลูกบิดแน่นหนา กลอนล็อคได้สนิท และวงกบไม่เสียหาย
- ระบบไฟ: ทดสอบการทำงานของปลั๊กไฟและสวิตช์ทุกจุดด้วยไขควงวัดไฟหรือที่ชาร์จโทรศัพท์ ตรวจสอบว่าไม่มีไฟตกหรือไฟกะพริบ อาการไฟรั่วต่างๆ
- ระบบน้ำ: เปิดก๊อกน้ำทุกจุดพร้อมกันเพื่อดูแรงดันน้ำ ทดสอบการระบายน้ำของสุขภัณฑ์และร่องระบายน้ำ
(Floor Drain) ว่าไม่อุดตัน และตรวจสอบรอยรั่วซึมตามจุดเชื่อมต่อต่างๆ - สุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้า/จาน: ตรวจสอบรอยรั่วซึม กลิ่น และการอุดตัน รวมถึงความสะอาดและสภาพโดยรวม
- เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน: ตรวจสอบว่ามีจำนวนและสเป็กตรงตามสัญญา มีรอยชำรุดหรือเสียหายหรือไม่
- บัวพื้น: ตรวจสอบว่าบัวพื้นมีการติดตั้งเรียบร้อยและไม่มีช่องว่างตามขอบผนัง
- เครื่องใช้ไฟฟ้า: ทดสอบการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด เช่น แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น และเครื่องดูดอากาศในครัว
- กระจก: ตรวจสอบรอยขีดข่วนหรือตำหนิบนกระจก ทั้งภายในห้องและบานกระจกในห้องน้ำ
- ระเบียง: ตรวจสอบพื้นระเบียงว่ามีการลาดเอียงเพื่อการระบายน้ำที่ดี ราวกั้นแข็งแรง และไม่มีรอยรั่วซึมบริเวณขอบ
- สี/วอลเปเปอร์: ตรวจสอบสีทาผนังและเพดานว่าเรียบร้อยดีหรือไม่ และวอลเปเปอร์ (ถ้ามี) ติดแน่น ไม่มีรอยย่นหรือขาด หรือมีน้ำรั่วซึม
- ท่อต่างๆ: ตรวจสอบท่อแอร์และท่อประปาว่าไม่มีรอยรั่วซึมหรืออุดตัน
- การเก็บงานอื่นๆ: ตรวจสอบรูต่างๆ ตามผนังหรือพื้น รวมถึงจุดที่ต้องเก็บงานให้เรียบร้อย เช่น รอยต่อต่างๆ
ตรวจคอนโด ต้องตรวจกี่ครั้งถึงจะพอ สำหรับเจ้าของห้องมือใหม่
คำถามที่หลายคนส [...]
ถ้าอยากตรวจรับคอนโดเอง ทำได้ไม่ยากอย่างที่คิด
เจ้าของคอนโดมือใหม่ที่มีความต้องการตรวจรับคอนโดด้วยตัวเอง สามารถศึกษาขั้นตอนการตรวจคอนโดได้ หรือตั้งกระทู้สอบถามขั้นตอน ตรวจคอนโดก่อนโอน Pantip ได้เช่นกัน แต่ไม่ควรโอนคอนโดก่อนตรวจรับ โดยเด็ดขาด ถ้าอยากตรวจรับคอนโดเอง ทำได้ไม่ยากอย่างที่คิด สามารถทำได้โดยเตรียมอุปกรณ์ตรวจเช็คให้พร้อม เช่น ไขควงวัดไฟ โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป ลูกแก้ว ถังน้ำ และอื่นๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังต้องศึกษาเกี่ยวกับเอกสารสัญญาซื้อขาย แบบแปลนห้อง รายการวัสดุ เพื่อตรวจสอบหรือตรวจรับคอนโดเองในจุดเสี่ยงต่างๆ เช่น โครงสร้างและงานสถาปัตยกรรม ระบบไฟฟ้า ระบบประปา ประตูหน้าต่าง เอกสารประกันต่างๆ และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
จ้างคนมาตรวจคอนโด คุ้มกว่าหรือไม่
การตรวจคอนโดก่อนโอนกรรมสิทธิ์ เป็นขั้นตอนที่สำคัญช่วยการันตีในด้านคุณภาพและความปลอดภัยรวมไปถึงความคุ้มค่าให้กับผู้ซื้อคอนโดโดยตรง หากเจ้าของคอนโดไม่แน่ใจ หรือไม่มีความรู้เกี่ยวกับกระบวนการตรวจคอนโดก่อนโอนกรรมสิทธิ์สามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญหรือบริษัทรับตรวจคอนโดก่อนโอน เข้ามาช่วยตรวจคอนโดอย่างละเอียดได้ บริษัทรับตรวจบ้านจะเป็นตัวกลางที่ช่วยตรวจสอบ Defect ต่างๆภายในคอนโดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในปัจจุบันอัตราค่าจ้างจะอยู่ประมาณ 2,000-6,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดห้อง สำหรับเจ้าของคอนโดมือใหม่บอกได้เลยว่าคุ้มค่าแน่นอน
หากห้องคอนโดไม่เรียบร้อย ห้ามโอนเด็ดขาด
หากห้องคอนโดไม่เรียบร้อย ห้ามโอนก่อนตรวจรับคอนโด เด็ดขาด ในกรณีนี้สำหรับเจ้าของห้องมือใหม่อาจเจอกับเจ้าของโครงการที่มีการเร่งโอนคอนโดเพื่อทำยอด โดยมีโปรโมชั่นและส่วนลดต่างๆให้ถ้ามีการโอนไปก่อนค่อยตรวจรับทีหลัง บอกได้เลยว่า อย่าโอนคอนโดก่อนตรวจรับ โดยเด็ดขาด เพราะเมื่อได้โอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยไปแล้ว จะพบเจอปัญหาต่างๆเกี่ยวกับการบริการ หรือการ Service ต่างๆที่ไม่ตรงตามความต้องการ หรือมีการซ่อมล่าช้าอย่างแน่นอน
ดังนั้น การตรวจคอนโดก่อนโอนเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ซื้อควรให้ความสำคัญ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยก่อนเข้าอยู่อาศัย การตรวจคอนโดควรทำอย่างน้อย 2-3 ครั้ง เพื่อตรวจสอบ defect ต่างๆ และควรเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม เช่น กล้องถ่ายรูป สมุดจดบันทึก ไฟฉาย ลูกแก้ว และตลับเมตร และตรวจเช็กตาม 15 จุดที่เราได้แนะนำไป สำหรับผู้ซื้อคอนโดท่านใด ที่ไม่พร้อมตรวจคอนโดเองหรือไม่มั่นใจ กลัวว่าจะตรวจได้ไม่ละเอียดพอ ให้เรา Pass Engineering รับตรวจบ้านและคอนโดก่อนโอน ก่อนเข้าอยู่ โดยวิศวกรตรวจบ้านมืออาชีพ ค้นหาข้อบกพร่องจุดเสี่ยงต่างๆที่ซ่อนเร้น และข้อบกพร่องที่มองเห็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อุปกรณ์ตรวจคอนโดทันสมัย เครื่องมือได้มาตรฐานสากล พร้อมรายงานผลการตรวจและให้คำแนะนำในการแก้ไข ช่วยให้ห้องคอนโดของคุณอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และมีความปลอดภัยมากที่สุด
