ตรวจเช็คระบบไฟฟ้าในบ้าน ก่อนเข้าอยู่ เรื่องนี้ผู้ซื้อต้องรู้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้านหลังใหม่ บ้านโครงการ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม หรือบ้านมือสอง ถ้าไม่อยากเจอปัญหาตามมาภายหลัง ต้องเสียทั้งเงินซ่อมเอง ไหนจะเรื่องความปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัยด้วย เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม วันนี้เรามี 7 วิธีตรวจระบบไฟในบ้านก่อนเข้าอยู่มาฝาก เพื่อเป็นแนวทาง ตรวจเช็ดจุดไหนบ้าง ตามไปดูกันเลย
ความสำคัญของการตรวจระบบไฟบ้าน
ตรวจไฟฟ้าบ้านก่อนเข้าอยู่มีความสำคัญมากๆ ถามว่าทำไมต้องตรวจ ไม่ตรวจได้ไหม ถ้าเจ้าของบ้านไม่ตรวจสอบให้ดี หรือไม่จ้างบริษัทรับตรวจบ้านมาตรวจสอบ เมื่อเข้าไปอาศัยอาจเกิดอันตรายตามมา เช่น ไฟรั่ว ไฟดูด ไฟช๊อต หรือไฟฟ้าลัดวงจร นำไปสู่การเกิดเหตุเพลิงไหม้ สร้างความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ ตรงกันข้าม หากมีการตรวจสอบระบบไฟฟ้าอย่างละเอียด ช่วยป้องกันความเสียหายเหล่านั้น สร้างความมั่นใจให้กับผู้อยู่อาศัย แถมการตรวจบ้านก่อนโอนยังเป็นการรักษาสิทธิ์ ไม่ต้องเสียเงินซ่อมแซมในอนาคตอีกด้วย
7 ขั้นตอน ตรวจเช็คระบบไฟฟ้าในบ้าน
1.ตรวจตู้โหลดหรือตู้ควบคุมไฟฟ้า
ตรวจระบบไฟฟ้าบ้าน ตรวจเช็กตู้ควบคุมไฟฟ้า (Consumer Unit) หรือตู้โหลดไฟฟ้า อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ เช็กการเดินสายไฟ ไม่มีรอยแตก ชำรุดเสียหาย ทดสอบการใช้งาน ทดสอบสวิตช์ตัดไฟ แผงวงจรไฟฟ้าบ้านวงจรย่อย เบรกเกอร์ย่อยควรแยกกันอย่างชัดเจนทำให้ง่ายต่อการบำรุงรักษา
2.ตรวจสวิตซ์ไฟฟ้า
ตรวจสวิตช์ไฟฟ้าทุกจุด ทั้งภายในและภายนอกว่าสามารถใช้งานได้หรือไม่ เปิด-ปิดได้ ไม่ฝืด ไม่ติดขัดหรือค้าง รวมถึงการตรวจสอบฝาครอบสวิตช์ ปิดสนิทหรือไม่ ไม่มีรอยแตกร้าว ชำรุดเสียหาย ติดตั้งสวิตช์ในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่มีความชื้นสูง หรือติดตั้งในระดับที่สูงกว่าระดับน้ำท่วมถึง
3.ตรวจปลั๊กหรือเต้าเสียบไฟฟ้า
ตรวจสอบระบบไฟฟ้าบ้าน ตรวจสอบปลั๊กไฟ เช็กว่ามีสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ ตรวจสอบปลั๊กเสียบและเต้ารับ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอันตราย ใช้งานได้ตามปกติ ไม่มีปัญหา ไม่ชำรุดเสียหาย ปลอดภัยจากการถูกไฟฟ้าดูด ไฟรั่วหรือไฟช็อต ทดลองด้วยการเสียบอุปกรณ์ไฟฟ้าแต่ละจุด หรือใช้เครื่องมือตรวจสอบเพื่อความรวดเร็ว
4.ตรวจสายไฟฟ้าและสายดิน
ตรวจเช็กระบบไฟฟ้าในบ้าน อย่าลืมตรวจสอบการเดินสายไฟ อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมหรือไม่ การเดินสายไฟใต้หลังคา ควรเดินสายไฟในท่อร้อยสายไฟ ป้องกันการถูกหนูกัดแทะหรือป้องกันอันตรายเมื่อมีน้ำรั่วซึมจากหลังคา สายไฟบริเวณผนังตีกิ๊บเดินสายไฟเพื่อความเป็นระเบียบ ตรวจสอบสายดิน ตรวจเช็กว่ามีการปริขาดหรือไม่ ตรวจรอยไหม้ ประกายไฟ
5.ตรวจมิเตอร์ไฟฟ้า
เช็กระบบไฟฟ้าในบ้านแล้วอย่าลืมตรวจเช็กมิเตอร์ไฟฟ้า ดูความเรียบร้อยในการติดตั้ง มีการติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่สูงหรือต่ำเกินไป สายไฟที่ต่อทั้งขาเข้าและขาออก ร้อยเรียบไม่ตึงหรือไม่หย่อนจนเกินไป ต้องไม่พาดผ่านต้นไม้ หรือในบริเวณที่มีคนเดินผ่านไปมา ทดสอบไฟรั่วด้วยการปิดไฟฟ้าทุกจุดในบ้าน จากนั้นสังเกตเฟืองเล็กว่าหมุนอยู่หรือไม่ ถ้าหมุนแสดงว่ามีไฟรั่ว
6.ตรวจป้องกันไฟฟ้ารั่ว
เช็กไฟฟ้ารั่วในบ้านสามารถตรวจสอบได้ 2 วิธี คือ ตรวจสอบด้วยการสังเกตมิเตอร์ ปิดไฟ ถอดปลั๊กอุปกรณ์ทั้งหมด จากนั้นสังเกตว่ามิเตอร์ไฟฟ้ายังทำงานอยู่หรือไม่ หากเฟืองยังหมุนแสดงว่ามีไฟรั่ว อีกวิธีคือตรวจสอบไฟรั่วด้วยไขควงวัดไฟ ปิดการทำงานของไฟฟ้าทุกจุด แตะไขควงวัดไฟบนอุปกรณ์ที่เสียบปลั๊ก หากมีสัญญาณไฟปรากฏขึ้นแสดงว่าเกิดไฟรั่ว
7.ตรวจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
ซื้อบ้านหลังใหม่ที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าแถม มีการติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ไว้แล้ว ควรตรวจสอบว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านทำงานปกติหรือไม่ เทสระบบไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าว่าใช้งานได้ปกติไหม ต้องสามารถใช้งานได้ปกติเมื่อเปิดใช้งานพร้อมกัน ไม่มีปัญหาไฟตกหรือไฟรั่ว มีการติดตั้งสายดินเรียบร้อย เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น เพื่อความปลอดภัย
Pass Engineering บริษัทรับตรวจบ้านก่อนโอน บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าในบ้านอย่างละเอียด เช็กระบบไฟฟ้า ละเอียดทุกจุดมั่นใจได้ ตรวจสอบโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ วิศวกรตรวจบ้านมืออาชีพ ใช้เครื่องมือทันสมัยในการตรวจสอบ เพื่อให้เจ้าของบ้านมั่นใจ เข้าอยู่อาศัยปลอดภัยไม่มีอันตรายตามมา เรื่องตรวจบ้านไว้ใจเราให้ Pass Engineering ดูแลแบบครบวงจร บริษัทรับตรวจบ้านที่ดีที่สุด ได้รับความไว้วางใจอันดับต้นๆ ในไทย สนใจจองคิวตรวจบ้าน ติดต่อได้เลย บริการครอบคลุมทุกพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ช่องทางติดต่อเราเพิ่มเติม
เว็บไซต์ : https://pass-engineering.com/
โทรศัพท์ : 080-291-1586
Facebook : Pass Engineering รับตรวจบ้านและคอนโด
Line : @passengineering
E-mail : Pass.engineer.4@gmail.com