ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเราใช้ไฟฟ้าในการดำรงชีวิต พลังงานไฟฟ้าเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย ทุกบ้านต้องมี การเดินระบบไฟฟ้า หรือเดินสายไฟ ต้องมีระเบียบเรียบร้อย เพื่อป้องกันอันตราย เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา วิธีเดินสายไฟ ภายในบ้านทำอย่างไร เรามีข้อแนะนำมาบอก ถึงคุณจะไม่ใช่ช่างไฟโดยตรง แต่ควรรู้ไว้ อย่างเช่น เวลาซื้อบ้าน ซื้อคอนโด คุณสามารถตรวจสอบระบบไฟฟ้าได้เบื้องต้นด้วยตัวเองว่า ช่างเดินสายไฟดีไหม มีการเดินสายไฟที่ถูกต้องได้มาตรฐานหรือไม่
การเดินสายไฟในบ้าน สำคัญอย่างไร
อย่างที่เราได้เกริ่นนำไปแล้วข้างต้นว่าการเดินสายไฟในบ้าน มีความสำคัญอย่างมาก ส่งผลทั้งด้านความสวยงามและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย การเลือกช่างไฟ ก็สำคัญไม่แพ้กัน ระบบไฟฟ้าในบ้านจะดีหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่ผู้รับเหมา หรือช่างไฟ ที่เราจ้างมา ดังนั้น ควรจ้างช่างที่มีประสบการณ์ มีความชำนาญโดยตรง เดินสายไฟอย่างเป็นระเบียบ ไม่รกรุงรัง มีการเดินสายไฟที่เชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟอย่างเป็นระบบ ป้องกันเหตุขัดข้องในการจ่ายไฟฟ้าที่อาจนำไปสู่เหตุอัคคีภัยได้
ประเภทของการเดินสายไฟภายในบ้าน
1.แบบติดผนัง
วิธีการเดินสายไฟฟ้าแบบฝังผนัง สายไฟจะถูกเดินซ่อนเข้าไปในผนัง โดยใส่ไว้ในท่อร้อยสายไฟ (Electrical Conduit) ทำให้มองไม่เห็นแนวสายไฟ ข้อดีของการเดินสายไฟในลักษณะนี้ คือ เป็นระเบียบเรียบร้อย สร้างความสวยงาม สะอาดตา มีความปลอดภัย ลดความเสี่ยงเกิดไฟฟ้าลัดวงจร แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนาน สายไฟไม่เสื่อมสภาพเร็ว ประหยัดพื้นที่ สายไฟไม่โผล่ออกมาให้รกตา ข้อเสียคือ การเดินสายไฟที่ซับซ้อน ยุ่งยาก ต้องอาศัยความประณีต ช่างไฟต้องเชื่อถือได้ อีกอย่าง หากมีสายไฟที่ชำรุด เราอาจมองไม่เห็น หรือมีความยุ่งยากในการซ่อมแซม
2.แบบเดินลอย
วิธีเดินสายไฟแบบเดินลอย การเดินสายไฟแบ่งย่อยออกเป็น 2 รูปแบบ คือ แบบตีกิ๊บและแบบร้อยท่อ การตีกิ๊บเป็นการครอบด้วยราง เดินสายไฟเป็นเส้นๆ ไปตามแนวผนัง เชื่อมต่อไปยังเต้ารับ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ส่วนการเดินสายไฟร้อยท่อ ใช้ท่อพีวีซี ยึดติดผนังโดยไม่ได้ซ่อนท่อใต้ผนัง ข้อดีคือ ขั้นตอนการเดินสายไฟไม่ยุ่งยาก ราคาประหยัด ติดตั้งได้รวดเร็ว การเดินสายไฟในท่อ ปกป้องสายไฟไม่ให้ชำรุดเสียหายง่าย ข้อเสียคือ ต้องจัดวางสายไฟอย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้รกตา การเดินสายไฟต้องไม่แออัดจนเกินไป ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
วิธีเดินสายไฟในบ้าน เพื่อความปลอดภัย
1.เตรียมอุปกรณ์เครื่องมือ
จัดเตรียมเครื่องมือและวัสดุที่จำเป็นในการเดินสายไฟ รวมถึงสายไฟที่ต้องใช้งาน เช่น คีม ค้อน ไขควง สว่านไฟฟ้า เลื่อยปากไม้ มีดปอกสายไฟ เข็มขัดรัดสายไฟ เทปพันสายไฟ ฟุตเหล็กกับดินสอ เหล็กนำศูนย์ ฯลฯ
2.วางแผนเส้นทางสายไฟ
เมื่อเตรียมอุปกรณ์ครบแล้ว ขั้นตอนการเดินสายไฟต่อมาคือการวางแผนเส้นทางการเดินสายไฟ คุณต้องออกแบบเส้นทางการเดินสายไฟให้เหมาะสมกับโครงสร้างบ้านและเป็นระเบียบ หลีกเลี่ยงจุดเสี่ยง หรืออาจก่อให้เกิดอันตรายได้ในอนาคต
3.จัดเตรียมพื้นที่
ก่อนเริ่มขั้นตอนการเดินสายไฟในบ้าน ควรเตรียมพื้นที่ให้พร้อม พื้นผิวที่ต้องการติดตั้ง มีความเรียบร้อย ไม่มีสิ่งกรีดขวาง หรืออาจเป็นอุปสรรคในการเดินสายไฟ
4.ติดตั้งสายไฟ
ขั้นตอนการเดินสายไฟฟ้าให้ติดตั้งสายไฟในตำแหน่งที่เราวางแผนไว้ การเลือกสายไฟหลักๆ มี 2 แบบคือการเดินสายไฟแบบฝังและการเดินสายไฟแบบลอย แต่ละแบบมีข้อดี ข้อเสียต่างกัน ควรพิจารณาเลือกรูปแบบการเดินสายไฟที่เหมาะสมกับบ้านมากที่สุด
5.ติดตั้งตู้เซอร์กิตเบรกเกอร์
การติดตั้งตู้เซอร์กิต ช่วยให้เกิดความปลอดภัย ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร อุปกรณ์จะช่วยตัดระบบกระแสไฟฟ้าอัตโนมัติ หากเกิดข้อผิดพลาด หรือมีความผิดปกติขึ้นในวงจรไฟฟ้า
6.ทดสอบระบบไฟฟ้า
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเดินสายไฟเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีสายไฟชำรุดเสียหาย ใช้ไฟฟ้าได้ตามปกติ ไม่มีกลิ่นเหม็นไหม้ ไม่มีกระแสไฟรั่ว
ข้อควรระวังในการเดินสายไฟ
- ตำแหน่งเต้ารับและสวิตช์ ต้องไม่อยู่ใกล้พื้นที่เปียกชื้น ติดตั้งสายไฟให้อยู่เหนือระดับน้ำพอสมควร
- บ้านชั้นล่างที่มีความเสี่ยงอาจถูกน้ำท่วมถึง ต้องเดินสายไฟที่มีเครื่องตัดไฟรั่ว หรือตัวกันดูด
- ติดตั้งตู้เมนไฟฟ้าที่ชั้นลอย หรือชั้นสองของบ้าน ป้องกันไฟดูด ความสูงของตู้เมนต้องไม่ต่ำกว่า 1.6 เมตร
- บ้านที่มีสองชั้น ควรแยกวงจรไฟฟ้าย่อย อย่างน้อยชั้นละ 1 วงจร เพื่อแยกการตัดไฟจากชั้นหนึ่งของบ้าน
- เลือกช่างรับเหมา ช่างเดินไฟฟ้า ที่มีประสบการณ์ มีความเป็นมืออาชีพในการทำงาน
ขั้นตอนตรวจสอบระบบหลังเดินสายไฟ
- ทดสอบมิเตอร์ไฟฟ้าด้วยการปิดสวิตช์ไฟทั้งหมด ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อดูว่าเฟืองเหล็กยังทำงานอยู่หรือไม่ หากยังหมุนแสดงว่ามีไฟรั่ว
- ตรวจสอบเมนสวิตช์ ดูว่ามีแมลงหรือสัตว์อะไรเข้าไปทำรังข้างในหรือไม่ เซอร์กิตเบรกเกอร์ ยังตัดวงจรไฟฟ้าได้ไหม หากชำรุดต้องรีบเปลี่ยน
- ตรวจสอบเต้ารับ ดูว่าหลวมไหม ชำรุดเสียหายไหม มีรอยไหม้ หากพบต้องเปลี่ยนทันที
- ตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้า มีไฟฟ้ารั่วไหม มีการติดตั้งสายดินหรือไม่ ถ้าไม่มีต้องรีบแจ้งช่างมาติดตั้ง
การเดินสายไฟในบ้าน มี 2 ประเภท คือเดินแบบฝังและเดินแบบลอย ซึ่งมีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป เทคนิคการเดินสายไฟฟ้าในบ้านไม่ยาก ถ้าคุณไม่ใช่ช่างไฟ ควรจ้างช่างที่มีประสบการณ์ หลังจากเดินสายไฟเสร็จเรียบร้อย อย่าลืมตรวจสอบ เทสระบบอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัย รวมถึงคนที่ซื้อบ้านใหม่ บ้านโครงการ บ้านจัดสรรมือหนึ่ง บ้านมือสอง ก่อนโอนแนะนำจ้างบริษัทเข้าไปตรวจสอบดีที่สุด
Pass Engineering บริษัทตรวจบ้าน ตรวจคอนโด ตรวจเช็กอย่างละเอียด ระบบไฟฟ้า ระบบประปา งานสุขาภิบาล งานสถาปัตยกรรมต่างๆ งานโครงสร้าง ตรวจสอบโดยวิศวกรมืออาชีพด้วยเครื่องมือทันสมัย สแกนอินฟราเรดตรวจสอบความผิดปกติในระบบไฟฟ้าอย่างแม่นยำ พร้อมรายงานผลข้อผิดพลาด ตรวจบ้านก่อนโอน รักษาสิทธิ์ในฐานะผู้บริโภค ถ้าเจอจุดบกพร่องรีบควรรีบแจ้งทางโครงการให้ส่งช่างมาแก้ไข ข้อดีคือเราไม่ต้องเสียเงินซ่อมเอง

